Skip to content

ระบบ MRP คืออะไร? ช่วยการผลิตในด้านใดบ้าง?

ERPHERO-Odoo- erp-MRP (1)

     หลายๆ ธุรกิจในปัจจุบันกำลังใช้ระบบ MRP เพื่อช่วยในการวางแผนการผลิตและจัดการงานคงสภาพอย่างมืออาชีพ แต่หากคุณยังไม่ทราบว่าระบบ MRP คืออะไร มาเรียนรู้กันเลย

MRP ทำงานอย่างไร?

    MRP ช่วยเร่งกระบวนการผลิตโดยกำหนดว่าวัสดุ ส่วนประกอบ และส่วนประกอบย่อยใดที่จำเป็น และเมื่อใดที่จะประกอบสินค้าสำเร็จรูป โดยอิงจากอุปสงค์และรายการวัสดุ (BOM) ทำได้ตั้งคำถามหลักสามข้อ คือ ต้องการวัสดุอะไร จำนวนเท่าใด และเมื่อใด ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในตารางการผลิตให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

     โดยระบบ MRP จะรวบรวมคำสั่งซื้อที่ได้รับมาประมวลผล จากนั้นจึงจัดทำแผนความต้องการวัสดุประเภทต่างๆ โดยระบบ MRP จะสามารถตอบโจทย์คำถามเหล่านี้ได้

      • ต้องสั่งซื้อวัตถุดิบชนิดใด เมื่อไหร่
      • สั่งปริมาณเท่าไหร่ เพื่อให้การผลิตถูกต้อง ไม่ขาดไม่เกินไปกว่าจำนวนผลิตจริง
      • เสร็จทันตามกำหนดระยะเวลาที่ถูกวางเอาไว้ในแผนงาน
      • ผูกกับระบบ HR เพื่อตรวจสอบว่าพนักงานคนใดดูแลไลน์การผลิตไหน
      • ส่งอีเมลแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแผน เปลี่ยนพนักงาน หรืออื่นๆ

เงื่อนไขประการสำคัญของระบบ MRP คือการนำเอาวัตถุดิบที่ได้ผ่านการสั่งซื้อ เข้าสู่กระบวนการผลิตตามลำดับขั้นตอน โดยอิงจากแผนงานที่ถูกวิเคราะห์และรวบรวมไว้แล้วเป็นแกนกลาง

    MRP หรือ Material Requirements Planning เป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการวางแผนและควบคุมวัตถุดิบ สินค้าสำเร็จรูป และการผลิตของธุรกิจ โดยการใช้ MRP จะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการข้อมูลและประเมินความต้องการของวัตถุดิบในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ทำให้การผลิตและการจัดสรรงานทั้งหมดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนและกระบวนการ MRP

    กระบวนการ MRP สามารถแบ่งออกเป็นสี่ขั้นตอนหลัก

1. การระบุความต้องการเพื่อตอบสนองความต้องการ

     ขั้นตอนแรกของกระบวนการ MRP คือการระบุความต้องการของลูกค้าและข้อกำหนดที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามนั้น เริ่มต้นด้วยการป้อนคำสั่งซื้อของลูกค้าและคาดการณ์การขาย จากนั้น MRP จะแยกความต้องการออกเป็นส่วนประกอบแต่ละรายการและวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการสร้างให้เสร็จสมบูรณ์ในขณะที่พิจารณาส่วนประกอบย่อยที่จำเป็น

2. ตรวจสอบสินค้าคงคลังและจัดสรรทรัพยากร

     การใช้ MRP เพื่อตรวจสอบความต้องการเทียบกับสินค้าคงคลังและการจัดสรรทรัพยากรนั้น คุณสามารถดูได้ทั้งรายการที่มีในสต็อกและเช็กตำแหน่งที่ตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งหากคุณมีสินค้าคงคลังในหลายตำแหน่ง นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณเห็นสถานะของสินค้า ทั้งที่ยังไม่อยู่ในคลังสินค้าหรืออยู่ระหว่างการขนส่งหรืออยู่ในใบสั่ง จากนั้น MRP จะย้ายสินค้าคงคลังไปยังสถานที่ที่เหมาะสมและแจ้งคำแนะนำในการสั่งซื้อใหม่

3. การจัดตารางการผลิต

     เมื่อใช้ตารางการผลิตหลัก ระบบจะกำหนดระยะเวลาและแรงงานที่ต้องใช้ในการดำเนินการแต่ละขั้นตอนของแต่ละบิลด์ให้เสร็จ และระบุเวลา เพื่อให้การผลิตสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ชักช้า

     นอกจากนี้ตารางการผลิตยังระบุว่าเครื่องจักรและเวิร์กสเตชันใดที่จำเป็นสำหรับแต่ละขั้นตอน จากนั้นจะสร้างใบสั่งงาน ใบสั่งซื้อ และใบสั่งโอนย้ายที่เหมาะสม แล้วจัดกำหนดการให้สอดคล้องกัน

4. ระบุปัญหาและให้คำแนะนำ

     เนื่องจาก MRP เชื่อมโยงวัตถุดิบเข้ากับใบสั่งงานและใบสั่งงานของลูกค้า จึงสามารถแจ้งเตือนทีมของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อรายการเกิดความล่าช้าและให้คำแนะนำสำหรับใบสั่งที่มีอยู่ สร้างสิ่งที่จำเป็นให้เสร็จสมบูรณ์

Material Requirement Planning มีประโยชน์อย่างไร

สำหรับ MRP ถือว่ามีส่วนช่วยในด้านของการผลิตเป็นอย่างมาก โดยประโยชน์ที่ได้รับหลักๆนั้น มีดังนี้

      1. ช่วยลดต้นทุนสินค้าได้มาก เนื่องจากมีการวางแผนการจัดการวัตถุดิบตามหลักสากล และรวมถึงการได้ผ่านการใช้งานจริงมาแล้วจากโรงงานที่นำไปใช้ ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก
      2. ช่วยลดปัญหาที่เกิดจากการบริหารงาน กระบวนการ วัสดุ เครื่องจักร
      3. เป็นที่เก็บองค์ความรู้ขององค์กร เช่น มาตรฐานการผลิต (BOM) วิธีการบริหารจัดการคลังสินค้า วิธีสั่งซื้อ สั่งผลิต ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
      4. สามารถเรียกดูรายงานในการสรุปผลได้ ณ ตอนนั้นเลย แม้จะอยู่ต่างประเทศ
      5. ลดการสูญเสียวัตถุดิบ สินค้า ด้วยนโยบายการบริหารแบบ FIFO , L4L , EOQ, ROP
      6. สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถที่จะตรวจสอบกระบวนการต่างๆ ได้ เหมาะสำหรับผู้บริหารที่ต้องการนำเสนอสินค้าให้แก่ลูกค้าปัจจุบัน หรือลูกค้าในอนาคตได้ ด้วยข้อมูลที่มีอยู่จริง
      7. กำหนดระยะเวลาการส่งสินค้าได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น ก่อนผลิตจริง จะได้ไม่ถูกปรับ และสูญเสียความน่าเชื่อถือเมื่อกำหนดเวลาแล้วส่งสินค้าไม่ทัน
      8. สามารถเทียบน้ำหนักของ Supplier กับทางองค์กรของตัวเองได้ว่า น้ำหนักแตกต่างกันจะมีผลต่อจำนวนคงคลังและราคาซื้อขายหรือไม่

     การใช้ระบบ MRP สามารถช่วยลดการสะสมสินค้าสำเร็จรูปในสต็อกของธุรกิจลง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้กับธุรกิจในด้านการลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้า ลดค่าใช้จ่ายในการทำคลังสินค้า และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการสูญเสียสินค้าเพราะเก็บสินค้าไว้นาน

    ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาวิธีการทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินการได้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการผลิตหรือการจัดการสินค้า การใช้ระบบ MRP อาจจะเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหาอยู่ มาเริ่มต้นใช้ MRP ในธุรกิจของคุณและเห็นผลลัพธ์ที่ดีดีกันเลย

Odoo ยังมีรายการแอปพลิเคชันที่ครอบคลุมมากกว่า 70 รายการเพื่อจัดการธุรกิจของคุณ 

สนใจบริการ ERP Implement & Consulting ติดต่อได้ที่
Email : bds@goconnext.com
Tel. : 088-809-0910 to 16
Line OA : @erphero

#SME #erphero #erp  #odoo #ระบบERP #CRM #POS #sale #invoicing #โปรแกรมบัญชี #purchase #Inventory #MRP

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิง :