On-Cloud vs On-Premise แบบไหนดีกว่ากัน?
ระบบทั้งสองแบบไม่ว่าจะเป็น On-Cloud หรือ On-Premise ต่างก็เป็นการใช้งานบนระบบ Server ด้วยกันทั้งคู่ แล้วจริง ๆ แล้วความต่างของ 2 สิ่งนี้คืออะไร? วันนี้เรามาดูให้เห็นภาพกัน
On-Premise คืออะไร?
On-Premise คือ ระบบ Server ที่ตั้งอยู่ที่ Site ของคุณเอง โดยต้องลงทุนก้อนใหญ่ เพื่อทำการเผื่อไว้ให้สามารถใช้ได้ 3-5 ปี ตามที่ Server รับประกันมา นอกจากนี้ก็ต้องทำการติดตั้ง บำรุงรักษา และ Upgrade เองอยู่เสมอ หากครบ 3-5 ปีแล้ว ก็ต้องมาตัดสินใจว่าจะต่อ MA หรือจะซื้อ Hardware ใหม่ (ส่วนใหญ่ก็จะทำการซื้อ Hardware ใหม่ เพราะไม่ค่อยไว้ใจ Hardware ที่อยู่มานานกัน) ทีนี้ก็จะกลับไปวนลูปเดิมแล้ว คือ ซื้อ-ติดตั้ง-ดูแล วนไปเรื่อย ๆ
On-Premise ERP คืออะไร?
ระบบ ERP แบบ on-premise คือระบบที่ติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กร องค์กรต้องเป็นผู้ดูแลรักษาระบบทั้งหมด ทั้งการติดตั้ง การกำหนดค่า การอัปเดตซอฟต์แวร์ และการดูแลความปลอดภัย เป็นต้น ระบบ ERP แบบ on-premise มีข้อดีคือองค์กรมีการควบคุมระบบทั้งหมด แต่มีข้อเสียคือต้องใช้เงินลงทุนสูง และต้องใช้เวลาในการติดตั้งและบำรุงรักษา
On-Cloud คืออะไร?
On-Cloud คือ ระบบ Server ที่คุณทำการเช่าใช้กับผู้ให้บริการ Cloud ซึ่งจะจ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือน ตาม Resource (CPU, RAM, HDD) ที่ต้องการใช้เท่านั้น โดยผู้ให้บริการะจะเป็นผู้ดูแล Hardware และ Upgrade ให้เท่าทันต่อเทคโนโลยีปัจจุบันอยู่เสมอ เรียกได้ว่า คุณแค่เพียงใช้งานภายในเครื่อง Server เท่านั้น ภายนอกเราดูแลให้ทั้งหมด หากผ่านไปเพียง 6 เดือน นับตั้งแต่เริ่มใช้งาน Cloud แล้ว ธุรกิจของคุณมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้จำเป็นต้องเพิ่ม Resource อย่างทันที จุดนี้เป็นจุดแข็งของ Cloud ที่ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถไปต่อได้อย่างไม่มีสะดุด เพราะสามารถเพิ่มได้ทันทีตามที่คุณต้องการ
On-Cloud ERP คืออะไร?
ระบบ ERP แบบ on-cloud คือระบบที่ติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการระบบคลาวด์ องค์กรไม่ต้องดูแลรักษาระบบทั้งหมด ผู้ให้บริการระบบคลาวด์จะเป็นผู้ดูแลรักษาระบบทั้งหมดให้ องค์กรจึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระบบเอง ระบบ ERP แบบ on-cloud มีข้อดีคือใช้เงินลงทุนน้อยกว่าแบบ on-premise และสามารถใช้งานได้ทันที แต่มีข้อเสียคือองค์กรไม่สามารถควบคุมระบบทั้งหมดได้
ด้านการลงทุน
On Cloud
ผู้ใช้บริการ Cloud Services ต้องเสียค่าบริการใช้พื้นที่บน Cloud ชำระค่าบริการแบบรายเดือนหรือรายปี โดยองค์กรสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่าย
On Premise
ผู้ใช้งานติดตั้ง Software และ Hardware โดยประเมิน Spec จากการใช้งานระยะยาวส่งผลให้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ต้องมีบุคลากรที่รับผิดชอบในเรื่องนั้น ๆ โดยตรง เช่น Data Admin, Data Security, Data Infrastructure เป็นต้น มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งดูแลระบบ เช่น การจัดเตรียมห้อง Serverเครื่องปรับอากาศสำหรับควบคุมอุณหภูมิ ค่าไฟ ค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์ Hardware ต่าง ๆ อาจมีค่าใช้จ่ายบานปลายได้หากขาดการวางแผนที่ดีหรือขาดความรู้ความเข้าใจ
ด้านการเข้าถึงข้อมูล
On Cloud
ผู้บริหารและบุคลากรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลา แบบ online real time เพียงแค่ Login เข้าสู่ระบบ สามารถดำเนินงานตามสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลและตามอำนาจอนุมัติที่ได้กำหนดไว้
On Premise
ผู้บริหารและบุคลากรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เฉพาะในรูปแบบที่ตั้งค่าไว้ เช่น ระบบ Lan ระบบ Network เป็นต้น ซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลได้แม้ในกรณีที่ไม่มีการเชื่อมต่อ Internet
ด้านความยืดหยุ่นของระบบ
On Cloud
มีความยืดหยุ่นของระบบสูง สามารถปรับเปลี่ยนระบบได้ง่าย เช่น การเพิ่มหรือลดขนาดของฐานข้อมูลตามการใช้งาน, Spec ของอุปกรณ์ หรืออุปกรณ์ที่ Login เข้าสู่ระบบเพื่อใช้งาน
On Premise
ระบบไม่มีความยืดหยุ่น ใช้งานระบบได้ตาม Spec ของอุปกรณ์ หากต้องการ Up Spec ฐานข้อมูลจะมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันความเสี่ยงเรื่องข้อมูลสูญหาย และต้องทดสอบอุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อให้มั่นใจว่าระบบสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านความปลอดภัย
On Cloud
ระบบมีความแม่นยำสูงช่วยจัดการด้านความปลอดภัยแบบอัตโนมัติ แจ้งเตือนหากพบสิ่งผิดปกติ ใช้เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพสูง มีการสำรองข้อมูลแบบอัตโนมัติ ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับสิทธิ์การเข้าถึงได้ ระบบจะต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานตรวจสอบทั้งภายใน ภายนอก, Vulnerability Assessment, และ Penetration Test
On Premise
ระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลเป็นไปตามการออกแบบ การติดตั้ง Server จะต้องอยู่ในสถานที่หรืออาคารที่มีความปลอดภัยสูง โดยความปลอดภัยจะเพิ่มขึ้นตามกฎระเบียบขององค์กรหรือการปฏิบัติของผู้ดูแลระบบ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่มีมาตรฐานเชื่อถือได้
ข้อควรพิจารณาในการเลือกใช้งาน on-cloud ERP
ก่อนตัดสินใจเลือกใช้งาน on-cloud ERP องค์กรควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
- ลักษณะธุรกิจ องค์กรควรพิจารณาลักษณะธุรกิจของตนเองว่าเหมาะสมกับการใช้งาน on-cloud ERP หรือไม่ เช่น องค์กรที่มีสาขาหรือสำนักงานหลายแห่ง องค์กรที่มีความต้องการใช้ระบบ ERP ที่มีความซับซ้อนสูง เป็นต้น
- ความต้องการขององค์กร องค์กรควรพิจารณาความต้องการขององค์กรตนเองว่าต้องการระบบ ERP ที่มีฟังก์ชันการทำงานอย่างไรบ้าง เช่น ต้องการระบบ ERP ที่ครอบคลุมกระบวนการทางธุรกิจหลักๆ ขององค์กร ต้องการระบบ ERP ที่รองรับการขยายธุรกิจ เป็นต้น
- งบประมาณ องค์กรควรพิจารณางบประมาณที่มีในการเลือกใช้งาน on-cloud ERP ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะต่ำกว่าระบบ ERP แบบ on-premise
ผู้ให้บริการ on-cloud ERP
ปัจจุบันมีผู้ให้บริการ on-cloud ERP มากมาย องค์กรควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบคุณสมบัติของผู้ให้บริการต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้บริการ โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ประสบการณ์ของผู้ให้บริการ ความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ คุณสมบัติของระบบ ERP เป็นต้น
โดยหนึ่งในระบบ ERP ที่ดี มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ครอบคลุมการทำธุรกิจในโลกปัจจุบัน นั่นคือระบบ Odoo ERP ระบบจัดการทรัพยากรอย่างครบวงจร ที่จะช่วยให้การจัดการการดำเนินการในธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย สามารถปรับใช้ตามความต้องการในแต่ละองค์กรได้อย่างอิสระบนระบบ On-Cloud ERP
โดยสรุปแล้วการใช้งานระบบ IT ทั้งในรูปแบบของ On-Premise และ On-Cloud จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนโดยแต่ละระบบก็จะมีข้อดี ข้อเสียในตัวเอง ซึ่งทางผู้ใช้งานจำเป็นจะต้องทำความรู้จักกับระบบทั้ง 2 รูปแบบว่ามีการใช้งานอย่างไร แต่ละแบบมีข้อจำกัดอย่างไรบ้างเพื่อที่เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นจะต้องใช้งานก็จะสามารถเลือกนำเอาระบบที่เหมาะสมมาใช้ให้ตรงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น
Odoo ยังมีรายการแอปพลิเคชันที่ครอบคลุมมากกว่า 70 รายการเพื่อจัดการธุรกิจของคุณ
สนใจบริการ ERP Implement & Consulting ติดต่อได้ที่
Email : [email protected]
Tel. : 088-809-0910 to 16
Line OA : @erphero
#SME #erphero #erp #odoo #ระบบERP #CRM #POS #sale #invoicing #โปรแกรมบัญชี #purchase #Inventory #MRP