ประโยชน์ 6 ข้อ ของระบบ ERP สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ธุรกิจส่วนมากในปัจจุบันประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อ ส่งผลให้มีสินค้าหมดอายุ และ สินค้าค้างสต๊อกอยู่จำนวนมาก ส่วนหนึ่งมาจากการจัดการที่ไม่ดีพอ หรือ มีการจัดซื้อไม่มีประสิทธิภาพ แต่ Purchase Management ของ Odoo ช่วยได้ เพราะมีระบบจัดการสั่งซื้อแม่นยำ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าเดิม
Purchase Management คืออะไร
อุตสาหกรรมการผลิต มีการแข่งขันที่สูง ทำให้ธุรกิจจำเป็นจะต้องมีโซลูชั่นที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มยอดขายและผลกำไร แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ความแม่นยำ การตัดสินใจโดยมีข้อมูลและกลยุทธ์ การใช้งานระบบ ERP สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต ประโยชน์ 6 ข้อของซอฟต์แวร์ ERP นี้อาจช่วยให้คุณเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมอุตสาหกรรมการผลิตจึงควรเลือกใช้ซอฟต์แวร์ ERP
ประโยชน์ของซอฟต์แวร์ ERP
1. การจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ข้อมูลหรือ Data ต่างๆ ภายในอุตสาหกรรมการผลิตนั้นมีอยู่เป็นจำนวนมากและมาจากหลายแผนก ซึ่งถ้ายังมีการบันทึกข้อมูลลงกระดาษ โอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาด การสูญหาย ข้อมูลไม่ครบถ้วน รวมถึงความปลอดภัยต่อข้อมูลก็มีน้อยมาก ถึงแม้จะบันทึกลงใน Hard Disk ก็ไม่สามารถการันตีได้เลยว่าข้อมูลที่เก็บเอาไว้จะมีความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนจำนวนมากที่ใช้งาน
ระบบ ERP สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมการผลิต จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยผู้ที่มีตำแหน่งระดับบริหารหรือระดับหัวหน้างานสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ในที่เดียว รวมถึงจำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลเฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น
2. การควบคุมสินค้าคงคลังได้เสร็จสรรพ
การจัดการและควบคุมสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้กระบวนการผลิตเป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ ERP ผู้ผลิตสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของสต็อคภายในและภายนอกได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น จึงทำให้การจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
3. ทุกแผนกของบริษัทเชื่อมต่อกันทั้งหมด
ทุกแผนกของโรงงานสามารถทำงานเชื่อมโยงกันได้ผ่านระบบ ERP เช่นแผนกการเงิน ทรัพยากรบุคคล, สินค้าคงคลัง, ขาย, บริการลูกค้า, และอื่น ๆ ทำให้ทุกแผนกสามารถทำงานผ่านระบบกลางร่วมกัน ช่วยให้ฝ่ายบริหารสามารถตรวจสอบข้อมูลการทำงานของแต่ละแผนกได้ง่ายและเรียลไทม์
4. มีระบบสร้างใบสั่งผลิตอัตโนมัติ
ระบบ ERP ช่วยให้การทำงานของแผนกต่างๆ สะดวกและรวดเร็วมากขึ้นด้วย “ระบบสร้างใบสั่งผลิตอัตโนมัติ (Automate Work Order)” โดยระบบจะรันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการผลิต เช่น
- วันที่
- เวลาในการดำเนินการ
- ชื่อลูกค้า
- ใบสั่งขาย
- ปริมาณสินค้า
- ชื่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ
หัวหน้างานสามารถตรวจสอบแต่ละงานตามลำดับงานที่สร้างขึ้นและทำให้แน่ใจว่างานทั้งหมดทำงานอย่างถูกต้อง
5. จัดการระบบ Supply Chain ได้อย่างราบรื่น
ระบบ ERP ช่วยให้ระบบ Supply Chain หรือห่วงโซ่อุปทานสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที รวมถึงการประสานงาน, การควบคุมการจัดซื้อ, การจัดการสินค้าคงคลัง และการส่งมอบสินค้า
จึงทำให้ผู้ผลิตสามารถออกแบบกลยุทธ์ในการจัดส่งสินค้า (Logistics) ให้ดีขึ้นได้ และส่งผลต่อการลดต้นทุนในการบริหาร การดำเนินงานได้มากขึ้นด้วย
6. ข้อมูลมีความแม่นยำ ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ช่วยให้ฝ่ายบริหารมีข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วนในทุกแง่มุมที่ส่งผลต่อการตัดสินใจต่างๆ เช่น ประสิทธิภาพในการขาย ลูกค้า กำไร ขาดทุน หุ้น การเงิน แรงงาน และอื่นๆ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการผลิตที่ดี ฝ่ายบริหารทำงานได้เร็วขึ้น รวมถึงการตัดสินใจที่สำคัญต่างๆ ก็สามารถช่วยให้ฝ่ายบริหารสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาดและรวดเร็วขึ้น
ถ้าหากธุรกิจของท่านมีความสนใจหรือต้องการทดลองใช้ระบบ Odoo ERP สามารถสอบถามรายละเอียดกับเรา erphero เรามีผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำปรึกษาและช่วยคุณแก้ปัญหาการทำงาน ให้เหมาะสมกับธุรกิจคุณมากที่สุด
สนใจบริการ ERP Implement & Consulting ติดต่อได้ที่
Email : [email protected]
Tel. : 088-809-0910 to 16
Line OA : @erphero
#SME #erphero #erp #odoo #ระบบERP #CRM #POS #sale #invoicing #โปรแกรมบัญชี #purchase #Inventory #MRP